ธรรมชาติน่ายล
ภูมิพลเขื่อนใหญ่
พระเจ้าตากเกรียงไกร
เมืองไม้และป่างาม
ในสมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ คิดว่าทำไมเวลาเราจะทำการบ้านหรือรายงานทำไมไม่มีข้อมูลให้เรานะ ดังนั้นทำให้คิดได้ว่าเราก็ทำขึ้นมาซักเอง พยายามรวบรวมข้อมูลที่น่าจะทำรายงานหรือการบ้าน หรืออื่น ๆ ได้
วันศุกร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2553
ประวัติเมืองตาก
เมืองตากในอดีตเป็นเมืองที่มีชาวมอญอยู่มาก่อน ดังมี หลักฐานศิลปมอญปรากฏอยู่ที่อำเภอบ้านตาก มีประวัติความเป็นมาเก่าแก่ และเป็นหนึ่งในหัวเมืองที่มีอายุขัยเกินกว่าสองพันปีขึ้นไป เมื่อมีการ อพยพ ของชนชาติไทยจากลุ่มน้ำแยงซีเกียงตอนใต้ ลงมาตามแนวลำน้ำดง (ลำน้ำสาละวิน) มีพวกหนึ่งได้ข้ามลำน้ำสาละวิน ผ่านลุ่มน้ำเมยหรือแม่น้ำต่องยินเข้ามาทางช่องเขาด้าน อำเภอแม่สอดและมาถึงบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า “เมืองตาก”
ผู้นำกลุ่มคนไทยที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองตากในยุค นั้น ได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ปกครองสืบทอดต่อเนื่อง กันมาจนถึงปี พ.ศ. 560 รัชสมัยพระเจ้าสักดำ ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองตากที่ยิ่งใหญ่มาก มีอาณาเขตที่อยู่ในอำนาจแผ่ไปจนจรดทะเลอันดามันดังมีบันทึกในพงศาวดารเหนือกล่าวว่าในรัชสมัยพระเจ้าสักดำนั้นเมืองตากมีการค้าขายกับเมืองอินเดียด้วย
เมืองตากคงจะเสื่อมลงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 พระยากาฬวรรณดิสผู้เป็นกษัตริย์เมืองตากที่อพยพมาจาก ตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ได้โยกย้ายไปสร้างราชธานีขึ้นใหม่ที่เมืองละโว้ทางตอนใต้ของเมืองตากลงไปอีก
มีบางยุคเมืองตากถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองร้างดังในพงศาวดารเหนือได้ กล่าวถึงการเสด็จทางชลมารคของพระนางจามเทวี พระราชธิดากษัตริย์ละโว้ (พระยากาฬวรรณดิส) เพื่อไปปกครองแคว้นหริภุญไชย (ลำพูน) ในราว พ.ศ. 1176 โดยทาง ลำน้ำปิง พระนางจามเทวีขึ้นไปสำรวจบนฝั่งแม่น้ำพบร่องรอยกำแพงเมืองเก่าๆ ถูกทิ้งร้าง จึงโปรดให้สร้างเป็นบ้านเมืองใหม่ชื่อว่า “เมืองตาก”
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1805 ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้ยกทัพ มาประชิดเมืองตาก ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงจัดกองทัพออกไปรบ โดยมีพระราชโอรสองค์เล็กซึ่งมีพระชนมายุได้ 19 พรรษา ติดตามไปด้วย กองทัพ ทั้งสองฝ่ายปะทะกันที่บริเวณเชิงดอยนอกเมืองตากประมาณกิโลเมตรเศษ ราชโอรสองค์เล็กได้ทรงชนช้าง กับขุนสามชนกระทำยุทธหัตถีกัน ขุนสามชนสู้ไม่ได้แตกพ่ายไป ต่อมาภายหลังทรงพระนามว่า “พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” และได้โปรดสร้างเจดีย์ขึ้นเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้น องค์หนึ่งเป็นศิลปแบบสุโขทัย ซึ่งเจดีย์ยุทธหัตถีนี้อยู่ที่วัดพระบรมธาตุ อำเภอบ้านตาก ห่างจากตัวเมืองไปทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงราว 31 กิโลเมตร
ต่อมาในแผ่นดินมหาธรรมราชา ได้ย้ายเมืองตากลงมาทางตอนใต้ตามลำน้ำปิง ไปตั้งอยู่ที่ป่ามะม่วง ฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ในเขตตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตากในปัจจุบัน
เมืองตากที่ย้ายมาตั้งใหม่นี้มิใช่เมืองหน้าด่าน สำหรับป้องกันกองทัพพม่าที่จะยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่กองทัพไทยใช้เป็นที่ชุมนุมพลในเวลา ที่จะยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้ทุกพระองค์
โดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองราชสมบัตินั้น พระองค์ได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระที่นั่งสุริยาอมรินทร ให้เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราราชสีห์ ไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือและต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ปลัดเมืองตาก พระยาวชิรปราการแล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยลำดับ
กล่าวโดยสรุป จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีความเป็นมาในประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การสนใจ เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์ในอดีตได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้แล้วถึง 4 พระองค์ คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงชนช้างกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง และทรงยกทัพกลับราชอาณาจักรไทยโดยผ่านดินแดนเมืองตากเป็นแห่งแรก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงนำทัพไปตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ และได้สร้างวัดพระนารายณ์ที่เชิงสะพานกิตติขจรปัจจุบัน และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคยได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองตาก และเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยจากพม่า ครั้งที่ 2
ผู้นำกลุ่มคนไทยที่อพยพมาตั้งถิ่นฐานที่เมืองตากในยุค นั้น ได้ตั้งตนเป็นกษัตริย์ปกครองสืบทอดต่อเนื่อง กันมาจนถึงปี พ.ศ. 560 รัชสมัยพระเจ้าสักดำ ซึ่งเป็นกษัตริย์เมืองตากที่ยิ่งใหญ่มาก มีอาณาเขตที่อยู่ในอำนาจแผ่ไปจนจรดทะเลอันดามันดังมีบันทึกในพงศาวดารเหนือกล่าวว่าในรัชสมัยพระเจ้าสักดำนั้นเมืองตากมีการค้าขายกับเมืองอินเดียด้วย
เมืองตากคงจะเสื่อมลงในช่วงพุทธศตวรรษที่ 10 พระยากาฬวรรณดิสผู้เป็นกษัตริย์เมืองตากที่อพยพมาจาก ตอนใต้ของลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียง ได้โยกย้ายไปสร้างราชธานีขึ้นใหม่ที่เมืองละโว้ทางตอนใต้ของเมืองตากลงไปอีก
มีบางยุคเมืองตากถูกทอดทิ้ง กลายเป็นเมืองร้างดังในพงศาวดารเหนือได้ กล่าวถึงการเสด็จทางชลมารคของพระนางจามเทวี พระราชธิดากษัตริย์ละโว้ (พระยากาฬวรรณดิส) เพื่อไปปกครองแคว้นหริภุญไชย (ลำพูน) ในราว พ.ศ. 1176 โดยทาง ลำน้ำปิง พระนางจามเทวีขึ้นไปสำรวจบนฝั่งแม่น้ำพบร่องรอยกำแพงเมืองเก่าๆ ถูกทิ้งร้าง จึงโปรดให้สร้างเป็นบ้านเมืองใหม่ชื่อว่า “เมืองตาก”
ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1805 ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดได้ยกทัพ มาประชิดเมืองตาก ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงจัดกองทัพออกไปรบ โดยมีพระราชโอรสองค์เล็กซึ่งมีพระชนมายุได้ 19 พรรษา ติดตามไปด้วย กองทัพ ทั้งสองฝ่ายปะทะกันที่บริเวณเชิงดอยนอกเมืองตากประมาณกิโลเมตรเศษ ราชโอรสองค์เล็กได้ทรงชนช้าง กับขุนสามชนกระทำยุทธหัตถีกัน ขุนสามชนสู้ไม่ได้แตกพ่ายไป ต่อมาภายหลังทรงพระนามว่า “พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” และได้โปรดสร้างเจดีย์ขึ้นเป็นที่ระลึกถึงชัยชนะในการทำยุทธหัตถีครั้งนั้น องค์หนึ่งเป็นศิลปแบบสุโขทัย ซึ่งเจดีย์ยุทธหัตถีนี้อยู่ที่วัดพระบรมธาตุ อำเภอบ้านตาก ห่างจากตัวเมืองไปทางฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิงราว 31 กิโลเมตร
ต่อมาในแผ่นดินมหาธรรมราชา ได้ย้ายเมืองตากลงมาทางตอนใต้ตามลำน้ำปิง ไปตั้งอยู่ที่ป่ามะม่วง ฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำปิง ซึ่งอยู่ในเขตตำบลป่ามะม่วง อำเภอเมืองตากในปัจจุบัน
เมืองตากที่ย้ายมาตั้งใหม่นี้มิใช่เมืองหน้าด่าน สำหรับป้องกันกองทัพพม่าที่จะยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมาเท่านั้น แต่ยังเป็นเมืองที่กองทัพไทยใช้เป็นที่ชุมนุมพลในเวลา ที่จะยกทัพไปตีเมืองเชียงใหม่อีกด้วย ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้ทุกพระองค์
โดยเฉพาะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก่อนที่พระองค์จะขึ้นครองราชสมบัตินั้น พระองค์ได้รับแต่งตั้งจากสมเด็จพระที่นั่งสุริยาอมรินทร ให้เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราราชสีห์ ไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือและต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองตาก ปลัดเมืองตาก พระยาวชิรปราการแล้วปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระเจ้าแผ่นดินโดยลำดับ
กล่าวโดยสรุป จังหวัดตากเป็นจังหวัดที่มีความเป็นมาในประวัติศาสตร์ ควรค่าแก่การสนใจ เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์ในอดีตได้เสด็จมาชุมนุมกองทัพที่เมืองตากนี้แล้วถึง 4 พระองค์ คือ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงชนช้างกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอิสรภาพ ณ เมืองแครง และทรงยกทัพกลับราชอาณาจักรไทยโดยผ่านดินแดนเมืองตากเป็นแห่งแรก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงนำทัพไปตีหัวเมืองฝ่ายเหนือ และได้สร้างวัดพระนารายณ์ที่เชิงสะพานกิตติขจรปัจจุบัน และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเคยได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นเจ้าเมืองตาก และเป็นผู้กอบกู้เอกราชของชาติไทยจากพม่า ครั้งที่ 2
วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2553
พระวีรมหากษัตราธิราชเจ้า
อันตัวพ่อ ชื่อว่า พระยาตาก
ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา
ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา
แด่ศาสนา สมถะ พระพุทธโคดม
ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี
สมถะพราหมณ์ชี ปฏิบัติ ให้พอสม
เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นมชม
ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา
พระพุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน
ทนทุกข์ยาก กู้ชาติ พระศาสนา
ถวายแผ่นดิน ให้เป็น พุทธบูชา
แด่ศาสนา สมถะ พระพุทธโคดม
ให้ยืนยง คงถ้วน ห้าพันปี
สมถะพราหมณ์ชี ปฏิบัติ ให้พอสม
เจริญสมถะ วิปัสสนา พ่อชื่นมชม
ถวายบังคม รอยบาท พระศาสดา
คิดถึงพ่อ พ่ออยู่ คู่กับเจ้า
ชาติของเรา คงอยู่ คู่พระศาสนา
พระพุทธศาสนา อยู่ยง คู่องค์กษัตรา
พระศาสดา ฝากไว้ ให้คู่กัน
วันศุกร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2553
ประวัติศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน หรือที่เรียกกันสั้นว่า "ศาลตากสินฯ" เป็นศาลาจัตุรมุข หน้าศาลแขวนโคมจีนสีแดง ภายในมีภาพพระราชประวัติพระเจ้าตาก ด้านหลังศาลมีรูปปั้น และตุ๊กตาม้าศึก ช้างศึกจำนวนมากที่ผู้คนนำมาถวาย ตั้งอยู่ที่สี่แยก ถนนตากสินดัดกับถนนมหาดไทยบำรุง ใกล้สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยใกล้ศาลากลางจังหวัดตาก
ภายในประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศาลนี้แต่เดิมอยู่บนวัดดอยข่อยเขาแก้ว ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง ต่อมาปี 2490 ชาวเมืองเห็นว่าศาลไม่สมพระเกียรติ จึงช่วยกันสร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับให้กรมศิลปกรหล่อ พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรม ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพ เมื่อ 2277 สวรรคต 2325 รวม 42 พรรษา" เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป และทุกปีระหว่างสิ้นปีและวันปีใหม่จะมีงานฉลองเป็นประเพณี จัดขึ้นบริเวณศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพิธีบวงสรวจพระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีการจัดขบวนแห่ เครื่องเซ่นสังเวย การออกร้านและการแสดงมหรสพต่าง ๆ
ภายในประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ศาลนี้แต่เดิมอยู่บนวัดดอยข่อยเขาแก้ว ฝั่งตรงข้ามกับตัวเอง ต่อมาปี 2490 ชาวเมืองเห็นว่าศาลไม่สมพระเกียรติ จึงช่วยกันสร้างขึ้นใหม่ พร้อมกับให้กรมศิลปกรหล่อ พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริงเล็กน้อย ในพระอิริยาบถที่กำลังประทับอยู่บนราชอาสน์ มีพระแสงดาบพาดอยู่ที่พระเพลา ที่ฐานพระบรม ที่ฐานพระบรมรูปมีคำจารึกว่า "พระเจ้าตากสินกรุงธนบุรี ทรงพระราชสมภพ เมื่อ 2277 สวรรคต 2325 รวม 42 พรรษา" เป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป และทุกปีระหว่างสิ้นปีและวันปีใหม่จะมีงานฉลองเป็นประเพณี จัดขึ้นบริเวณศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีพิธีบวงสรวจพระวิญญาณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีการจัดขบวนแห่ เครื่องเซ่นสังเวย การออกร้านและการแสดงมหรสพต่าง ๆ
ประวัติย่อพระสยามเทวาธิราช
ปูชนียวัตถุที่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ทรงคุ้มครองชาวไทยให้รอดพ้นจากผองภัยพิบัติทั้งปวงตลอดมา
เป็นเทวรูปที่หล่อด้วยทองคำทั้งองค์ สูง 20 ซม. ทรงเครื่องต้นแบบพระมหากษัตริย์ พระหัตถ์ขวาทรงถือพระขรรค์ และพระหัตถ์ซ้ายทรงยกขึ้นจิบเสมอพระอุระประดิษฐานอยู่ในพระวิมานไม้จันทน์ ภายในพระวิมานมีคำจารึกเป็นอักษรจึน แปลได้ความว่า "สถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช" แม้เทวรูปจะมีขนาดเล็กแต่ได้สัดส่วนงดงาม เน้นรายละเอียดลวดลายของเครื่องทรงได้อย่างคมชัด สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีหม่อมเจ้า ประดิษฐ์วรการ เป็นช่างเอกในนาม "กรมสิบหมู่"
เป็นเทวรูปที่หล่อด้วยทองคำทั้งองค์ สูง 20 ซม. ทรงเครื่องต้นแบบพระมหากษัตริย์ พระหัตถ์ขวาทรงถือพระขรรค์ และพระหัตถ์ซ้ายทรงยกขึ้นจิบเสมอพระอุระประดิษฐานอยู่ในพระวิมานไม้จันทน์ ภายในพระวิมานมีคำจารึกเป็นอักษรจึน แปลได้ความว่า "สถิตแห่งพระสยามเทวาธิราช" แม้เทวรูปจะมีขนาดเล็กแต่ได้สัดส่วนงดงาม เน้นรายละเอียดลวดลายของเครื่องทรงได้อย่างคมชัด สร้างในสมัยรัชกาลที่ 4 โดยมีหม่อมเจ้า ประดิษฐ์วรการ เป็นช่างเอกในนาม "กรมสิบหมู่"
พระราชอาณาเขตประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแผ่ไพศาลมากที่สุด
ทิศเหนือ ได้ดินแดนเวียงจันทน์ หลวงพระบาง
ทิศใต้ ได้ดินแดนกะลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี
ทิศตะวันออก ได้ลาว เขมร ทางฝั่งแม่น้ำโขงจรดอาณาเขตญวน
ทิศตะวันตก จรดดินแดนเมาะตะมะ ทะวาย มะริด และตะนาวศรี
ทิศใต้ ได้ดินแดนกะลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี
ทิศตะวันออก ได้ลาว เขมร ทางฝั่งแม่น้ำโขงจรดอาณาเขตญวน
ทิศตะวันตก จรดดินแดนเมาะตะมะ ทะวาย มะริด และตะนาวศรี
วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553
สดุดีพระวีรมหากษัตราธิราชเจ้า
พระทรงดาบ รบรุก ทรงบุกบัน
ทรงประจัญ ศึกเสือ ทั้งเหนือใต้
เอาเลือดเนื้อ และชีวิต พิชิตชัย
กู้ให้ไทย คืนไทย ทุกวันมา
เมืองสยาม ยับแยก เคยแตกย่อย
พระประสาน รวมรอย เป็นหนึ่งหล้า
ให้ลูกหลาน ทุกรุ่น อุ่นอุรา
ได้ภูมิใจ ในคุณค่า ของแผ่นดิน
พระทรงดาบ รบรุก ไปทุกทิศ
ประกาศิต จากฟ้า ว่า "ตากสิน"
รำลึกองค์ พระผู้ กู้ธรณินทร์
ถวายชีวิน ไว้บูชา ทั่วฟ้าเอยฯ
ทรงประจัญ ศึกเสือ ทั้งเหนือใต้
เอาเลือดเนื้อ และชีวิต พิชิตชัย
กู้ให้ไทย คืนไทย ทุกวันมา
เมืองสยาม ยับแยก เคยแตกย่อย
พระประสาน รวมรอย เป็นหนึ่งหล้า
ให้ลูกหลาน ทุกรุ่น อุ่นอุรา
ได้ภูมิใจ ในคุณค่า ของแผ่นดิน
พระทรงดาบ รบรุก ไปทุกทิศ
ประกาศิต จากฟ้า ว่า "ตากสิน"
รำลึกองค์ พระผู้ กู้ธรณินทร์
ถวายชีวิน ไว้บูชา ทั่วฟ้าเอยฯ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)