- ลดอาหารเค็ม ของหมักดอง
- ลดน้ำหนัก (ถ้าอ้วน) โดยการรับประทานผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น งดของหวาน มัน ของทอด แป้ง
- งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา
- ทำให้จิตใจให้เบิกบานแจ่มใสอยู่เสมอ
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
- หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดความดันโลหิตเป็นประจำ และมาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง
- เมื่อมีอาการผิดปกติ ควรมาพบแพทย์
ในสมัยที่ยังเป็นนักเรียนอยู่ คิดว่าทำไมเวลาเราจะทำการบ้านหรือรายงานทำไมไม่มีข้อมูลให้เรานะ ดังนั้นทำให้คิดได้ว่าเราก็ทำขึ้นมาซักเอง พยายามรวบรวมข้อมูลที่น่าจะทำรายงานหรือการบ้าน หรืออื่น ๆ ได้
วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง
อันตรายของโรคความดันโลหิตสูง
หัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดโรคหัวใจโต
สมอง ความดันโลหิตสูง ทำให้ผนังหลอดเลือดหนา ขรุขระ ตีบแคบ เลือดผ่านไม่สะดวกเกิดภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันหรือหลอดเลือดแดงในสมองแตก ซึ่งทำให้เป็นโรคอัมพาต อัมพาตแบบชั่วคราว, อัมพาตแบบถาวร หรือถึงแก่ความตายได้
ไต ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตจะหนาแข็ง รูบตีบแคบ ขรุขระ เลือดเลี้ยงไตไม่พอ ทำให้โตมีขนาดเล็กลง หรือฝ่อลงเสื่อมสมรรถภาพการทำงาน จนเกิดภาวะไตวาย
จอตา เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตา ทำให้สายตาเสียหรือตาบอด
การป้องกันความดันโลหิดสูง
- ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วน
- ไม่รับประทานอาหารเค็มจัด
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- พักผ่อนไห้เพียงพอ
- ลดความเครียดความกังวลทำให้จิตใจแจ่มใส
- งดสูบบุหรี่ งดการดื่มสุรา
ผู้ที่มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นโรคนี้หรือผู้ที่มีอายุ 40 ขึ้นไป ควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตอย่างน้อย 3 เดือนครั้ง
ผู้ใดบ้างที่มีโอกาสเป็นโรคความดันโลหิตสูง
- ผู้ที่มีประวัติความดันโลหิตสูงในครอบครัว เช่น บิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย เป็นต้น
- ผู้ที่อ้วน, น้ำหนักตัวมาก
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางชนิดมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง เช่น โรคเบาหวาน, โรคไขมันในเลือดสูง, โรคไต
- ผู้ที่เครียดมาก คิดมากก็อาจจะเป็นโรคความดันโลหิตสูงในระยะต่อมา
- ผู้ที่สูบบุหรี่
ความดันโลหิตสูง
แรงดันที่เกิดขึ้น เมื่อหัวใจบีบตัวจะเป็นแรงดันอันหนึ่งเป็นค่าสูง และเมื่อหัวใจคลายตัวจะได้แรงดันอีกอันหนึ่งเป็นค่าต่ำ
ความดันโลหิตของคนปกติ จะไม่เกิน 140/90 มม.ปรอท ถ้าสูงกว่านี้จะถือว่าเป็นความดันโลหิตสูง
วันพุธที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2553
อาหารกับการควบคุมเบาหวาน
- อาหารที่รับประทานได้โดยไม่จำกัด ได้แก่ ผัก ประเภทที่มีใยมาก เช่น ผักกาดขาว ผักบุ้งไทย ผักขม แตงกวา บวบ ตำลึง สายบัว กะหล่ำปลี
- อาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานต้องจำกัดปริมาณ ได้แก่ อาหารประเภทข้าวเจ้า ข้าวเหนียว ขนมปัง ก๋วยเตี๋ยว อาหารที่มีไขมันมาก เนื้อสัตว์ติดมัน
- อาหารที่ผู้ป่วยเบาหวานควรงด ได้แก่ น้ำตาลทุกชนิด น้ำหวาน น้ำอัดลม นมปรุงแต่งรส แยม ผลไม้บรรจุกระป๋อง ผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ทุเรียน ขนุน ขนมหวานทุกชนิด เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์
อาการสำคัญที่พบบ่อยในโรคเบาหวาน
- ปัสสาวะบ่อย และมีปริมาณน้ำปัสสาวะมาก ถ้าตั้งทิ้งไว้อาจมีมดขึ้น
- คอแห้ง กระหายน้ำ และดื่มน้ำมาก เป็นผลจากการที่ร่างกายเสียน้ำไปจากการปัสสาวะบ่อยและมาก ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำจึงต้องชดเชยด้วยการดื่มน้ำบ่อย ๆ
- หิวน้ำบ่อยและรับประทานจุ เนื่องจากร่างกายขาดพลังงาน จึงทำให้รู้สึกหิวบ่อย และรับประทานจุ
- น้ำหนักลด ผอมลง อ่อนเพลีย
- คันตามผิวหนังและอวัยวะสืบพันธุ์
ผู้ที่มีอาการบางอย่างดังกล่าว ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดให้แน่ใจว่าเป็นเบาหวานหรือไม่ สำหรับบุคคลทั่วไปก็ควรได้รับการตรวจระดับน้ำตาลในเลือดเป็นประจำทุกปี
วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553
สาเหตุและโอกาสที่ทำให้เป็นเบาหวาน
- ความอ้วน เนื่องจากในคนอ้วน เนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย มีการตอบสนองต่อฮอร์โมนอินซูลินลดน้อยลง อินซูลินจึงไม่สามารถพาน้ำตาลเข้าไปในเนื้อเยื่อได้ดีเช่นเดิม จึงมีน้ำตาลส่วนเกินอยู่ในกระแสเลือด
- สูงอายุ ตับอ่อนจะสังเคราะห์และหลั่งฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยลง ในขณะที่ได้รับน้ำตาลเท่าเดิม จึงมีน้ำตาลส่วนเกินในกระแสเลือด
- ตับอ่อนได้รับความกระทบกระเทือน เช่น ตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจากการดื่มสุรามากเกินไป หรือ ตับอ่อนอักเสบเรื้อรังจากการดื่มสุราเกินไป หรือ ตับอ่อนบอบช้ำจากการประสบอุบัติเหตุ ซึ่งมีความจำเป็นต้องผ่าตัดเอาตับอ่อนบางส่วนออก สำหรับคนที่มีความโน้มเอียงที่จะเป็นเบาหวานอยู่แล้ว ปัจจัยดังกล่าวนี้จะกล่าวนี้จะเป็นตัวชักนำให้อาการของเบาหวานแสดงออกเร็วขึ้น
- การติดเชื้อไวรัสบางชนิด เช่น คางทูมและหัดเยอรมัน เป็นต้น
- ยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาคุมกำเนิด
- การตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนหลายชนิดที่รกสังเคราะห์ขึ้น มีผลยับยั้งการทำงานของอินซูลิน
โรคเบาหวาน
โรคเบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีปริมาณมีน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เนื่องจากขาดฮอร์โมนเรียกว่า อินซูลิน ทำให้การเผาผลาญอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลในร่างกายมีน้อยจึงเกิดการคั่งของน้ำตาลในเลือดและอวัยวะต่าง ๆ เมื่อมีน้ำตาลคั่งในเลือดมาก ๆ ก็เกิดโรคแทรกซ้อนตามมา
อินซูลิน เป็นสารที่สร้างจากตับอ่อน ทำหน้าที่ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติแม้หลังรับประทานอาหาร
วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553
โรคตาแดง
โรคตาแดงติดต่อกันได้อย่างไร
โรคมักระบาดในกลุ่มคนที่อยู่รวมกันอย่างแออัดโดยอาจแพร่ติดต่อจากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย ส่วนมากมักติดกันทางอ้อมโดย
- ใช้มือสกปรกที่มีเชื้อโรคขยี้ตา
- ใช้สิ่งของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา ขันน้ำ และของใช้อื่น ๆ ร่วมกับผู้ที่เป็นโรค
- แมลงหวี่หรือแมลงวันตอมตา
อาการของโรคตาแดงเป็นอย่างไร
หลังจากได้รับเชื้อโรคเข้าตา ประมาณ 24 - 48 ชั่วโมง จะมีอาการระคายเคืองตา ปวดตา มีน้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม เยื่อบุตาขาวจะอักเสบ แดง ซึ่งอาจเริ่มที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน หรือเป็นทั้ง 2 ข้างพร้อมกันก็ได้ อาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือครั่นเนื้อครั่นตัว หรืออาการปวดเสียวที่แขนขาด้วย ผู้ป่วยมักจะหายได้เอง ภายใน 1-2 สัปดาห์ ถ้าไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน
เมื่อเป็นโรคตาแดงควรปฎิบัติตัวอย่างไร
- เมื่อมีอาการตามที่กล่าวมา ควรรีบไปพบแพทย์ แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะชนิดหยอดหรือป้ายตา เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเชื้อแบคทีเรีย ป้ายตาติดต่อกันประมาณ 7 วัน สำหรับผู้ป่วยบางรายที่มีไข้ ปวดศีรษะก็ใช้ยาลดไข้แก้ปวดตาอาการ ถ้ามีอาการรุนแรงขึ้น ต้องรีบไปพบแพทย์อีกครั้ง
- ควรพักสายตา ไม่ใช้สายตามากนัก
- ควรหยุดเรียนหรือหยุดงานประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือจนกว่าอาการตาแดงจะหายเป็นปกติ และไม่ควรไปในที่ชุมชน เช่น โรงภาพยนตร์ ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ เพราะอาจนำโรคไปแพร่ติดต่อให้ผู้อื่นได้
- แยกของใช้ส่วนตัวของผู้ป่วย อย่าให้ผู้อื่นใช้รวมด้วย
- ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังจากถูกต้องตาและหมั่นล้างมือบ่อย ๆ
มีวิธีการป้องกันไม่ให้ติดโรคตาแดงไหม
โรคนี้ป้องกันได้โดยการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล ได้แก่
- หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใช่มือที่ไม่ได้ล้างให้สะอาดขยี้ตา
- เมื่อฝุ่นละอองหรือผงเข้าตา ไม่ขยี้ตาให้ล้างด้วยน้ำต้มสุกที่เย็นแล้ว
- ไม่ใช้สิ่งของ เช่น แว่นตา ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดมือ หรือถ้วยล้างตา ร่วมกับผู้อื่นโดยเฉพาะเมื่อมีโรคตาแดงระบาด ต้องระวังให้มากยิ่งขึ้น
- ซักเสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ผ้าเช็ดหน้า ปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ฯลฯ ผึ่งแดดให้สะอาดอยู่เสมอ
- ในสถานที่ที่คนอยู่ร่วมกันอย่างแออัด ควรจัดหาน้ำสะอาดให้เพียงพอสำหรับการล้างมือ ล้างหน้า และใช้อาบ