วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สัญญาณอันตรายบ่งบอกโรคไต

ไตเป็นอวัยวะที่ทำงานตลอดเวลา การที่ปัสสาวะได้ตามปกติไม่ได้หมายความว่าไตทำงานดีเสมอไป เพราะไตยังมีหน้าที่อื่น ๆ อีกนอกเหนือไปจากการขับน้ำ ซึ่งการตรวจร่างกายประจำปีเท่านั้นจึงจะรู้ได้ว่าไตผิดปกติหรือไม่

ผู้ป่วยโรคไตระยะต้น ๆ นั้นมักจะไม่มีอาการ แต่จะทราบก็ต่อเมื่อตรวจเลือดหรือปัสสาวะ ดังนั้น จึงควรพบหมอเพื่อตรวจร่างกายประจำปี แต่สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคไตควรได้รับการตรวจอย่างสม่ำเสมอ ตามคำแนะนำของหมอที่ดูแล

โรคไตเรื้อรังจะเริ่มแสดงอาการเมื่อมีของเสียคั่งในเลือดมากแล้วซึ่งแสดงว่าไตทำงานผิดปกติมากพอควร จึงควรไปรับการตรวจรักษาแต่เนิ่น ๆ เพราะโรคไตบางโรคบางโรคอาจรักษาให้หายขาดหรือทำให้ไตทำงานคงที่ตลอดชีวิตโดยไม่ต้องพึ่งการล้างไตได้ แต่แน่นอน ถ้าเป็นโรคไตรุนแรงแล้ว การรักษาจะชะลอการเสื่อมของไตได้เท่านั้น มีบ่อยครั้งที่ผู้ป่วยมาตรวจเมื่อไตหยุดทำงานแล้ว ทั้งที่มีอาการมานานแล้วจึงน่าเสียดายที่จะต้องรักษาด้วยการล้างไตเท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ดังนั้น ควรระแวดระวังและไปตรวจเพิ่มเติมเมื่อมีอาการบางอย่างที่บ่งบอกถึงโรคไต แต่ก่อนอื่นต้องทราบเบื้องต้นว่าอาการแต่ละอย่างไม่ได้จำเพาะต่อโรคไตโรคหนึ่งและในทางกลับกันโรคหนึ่งโรคก็มีอาการได้หลายอย่าง ดังนั้น อาการที่จะกล่าวถึงต่อไปเป็นเพียงสิ่งที่บอกว่าอาจมีโรคไตและจำเป็นต้องมาตรวจเพิ่มเติมเสมอเท่านั้น

วันพฤหัสบดีที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การติดต่อของโรควัณโรค

สามารถแพร่กระจายจากปอดของผู้ป่วยวัณโรค ทางละอองเสมหะเมื่อ ไอ จาม โดยไม่ใช้ผ้าปิดปาก

วัณโรค คือ

วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ มัยโคแบคทีเรียม ทูเบอร์คูโลซิส Mycobacterium tuberculosis หรือ ทีบี (TB)

วันโรคเป็นได้กับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย เช่น ปอด ลำไส้ ไต กระดูก ผิวหนัง ต่อมน้ำเหลือง และเยื้อหุ้มสมอง

วัณโรคที่พบบ่อย และเป็นปัญหา คือ วัณโรคปอด

วัณโรคสามารถรักษาหายได้ โดยการกินยาทุกวันอย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 - 8 เดือน

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

เอชไอวีหรือเอดส์ คืออะไร?


  • เอช ไอ วี เป็นโรคติดต่อที่สำคัญยิ่งในประเทศของเรา

  • เอช ไอ วี เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อไวรัส คนที่ติดเชื้อเอช ไอ วี ในช่วงปีแรกยังมีสุขภาพดี ไม่เจ็บป่วย แต่คนที่ติดเชื้อนานหลายปีจะเริ่มมีอาการเจ็บป่วย เช่น มีเชื้อราในปาก มีไข้ ท้องเสีย ตุ่มคันบริเวณผิวหนัง เป็นต้น เมื่อเขาเจ็บป่วยมาก ๆ เราจะเรียกคนที่ติดเชื้อเอช ไอ วี ว่า เอดส์ "เอดส์" หมายถึง คนที่ติดเชื้อเอช ไว วี ที่มีอาการรุนแรงมาก
  • คนติดเชื้อเอช ไอ วี ได้โดยการร่วมเพศกับคนที่ไม่รู้ว่าติดเอช ไอ วี หรือไม่ หรือมีการร่วมเพศโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย
  • การติดยาเสพติดชนิดฉีดเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้คนติดเชื้อเอช ไอ วี เพราะใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
  • เด็กได้รับเชื้อเอช ไอ วี จากแม่ได้ โดยแม่จะแพร่เชื้อไวรัสให้ลูกขณะท้อง โดยเฉพาะในช่วงคลอดลูก หรือในช่วงให้นมแม่แก่ลูก

วัณโรค คืออะไร?

วัณโรคเป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า และติดต่อกันได้โดยการหายใจเอาหยดฝอยเสมหะขนาดเล็ก ที่พาเอาเชื้อวัณโรคออกมาโดยการไอ จาม พูดดัง ๆ หรือร้องเพลงของผู้ป่วยที่มีแผลวัณโรคปอด โดยหยดฝอยเสมหะที่มีเชื้อวัณโรคนี้ เมื่อแห้งจะลอยอยู่ในอากาศได้นานเป็นชั่วโมง ทั้งนี้เนื่องจากตัวเชื้อโรคเคลื่อนไหวด้วยตัวเองไม่ได้ และไม่ออกมากับลมหายใจผู้ป่วยที่หายใจตามปกติอยู่ได้

คนที่ป่วยเป็นโรควัณโรคส่วนใหญ่มีอาการเหล่านี้
  • ไอ ติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์
  • มีเหงื่อออกมากตอนกลางคืน
  • มีไข้
  • ไอเลือดออก
  • เบื่ออาหาร (น้ำหนักลด)
  • อ่อนเพลีย

หากมีอาการไอนานเกิน 2 สัปดาห์ ควรรีบหาหมอเพื่อรักษา ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก

ถ้าคนที่เจ็บป่วยด้วยวัณโรคกินยาให้ครบถ้วนสม่ำเสมอ จึงจะหายจากวัณโรค

ดังนั้น การมาหาหมอเพื่อรักษาเร็วเท่าไร ยิ่งทำให้ผลการรักษาดีขึ้น

วันจันทร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

การปฏิบัติตัวเมื่อเป็นโรคความดันโลหิตสูง

  1. ลดอาหารเค็ม ของหมักดอง
  2. ลดน้ำหนัก (ถ้าอ้วน) โดยการรับประทานผัก ผลไม้เพิ่มขึ้น งดของหวาน มัน ของทอด แป้ง
  3. งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา
  4. ทำให้จิตใจให้เบิกบานแจ่มใสอยู่เสมอ
  5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  6. ออกกำลังกายเป็นประจำ
  7. รับประทานยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
  8. หมั่นสังเกตอาการตนเอง วัดความดันโลหิตเป็นประจำ และมาตรวจตามแพทย์นัดทุกครั้ง
  9. เมื่อมีอาการผิดปกติ ควรมาพบแพทย์

อันตรายของโรคความดันโลหิตสูง

หลอดเลือดแดง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ เช่น หัวใจ สมอง ไต โดยทำให้ผนังด้านในหนา แข็งตัว ขาดความยืดหยุ่น ขรุขระ ผนังหลอดเลือดไม่แข็งแรงโปร่งแตกง่าย

หัวใจ กล้ามเนื้อหัวใจต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดโรคหัวใจโต

สมอง ความดันโลหิตสูง ทำให้ผนังหลอดเลือดหนา ขรุขระ ตีบแคบ เลือดผ่านไม่สะดวกเกิดภาวะหลอดเลือดแดงอุดตันหรือหลอดเลือดแดงในสมองแตก ซึ่งทำให้เป็นโรคอัมพาต อัมพาตแบบชั่วคราว, อัมพาตแบบถาวร หรือถึงแก่ความตายได้

ไต ผนังหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงไตจะหนาแข็ง รูบตีบแคบ ขรุขระ เลือดเลี้ยงไตไม่พอ ทำให้โตมีขนาดเล็กลง หรือฝ่อลงเสื่อมสมรรถภาพการทำงาน จนเกิดภาวะไตวาย

จอตา เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงตา ทำให้สายตาเสียหรือตาบอด